เกี่ยวกับ เบสท์โฟร์มีเดีย

บริษัท เบสท์โฟร์มีเดีย จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปลายปี 2548 โดยการร่วมทุน ระหว่าง กลุ่มผู้บริหาร จากหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ,Nation และนาย กำพล มหานุกูล โดยบริษัทได้วางนโยบาย 4 ธุรกิจ สื่อ ตามความหมายของชื่อบริษัท คือ

1. เป็นผู้ผลิตสื่อวิทยุ
2. เป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์
3. เป็นผู้ผลิตนิตยสาร และวารสาร
4. เป็นผู้วางแผนสื่อโฆษณาและ ประชาสัมพันธ์

จากปี 2548-2551 บริษัทได้ดำเนินการทั้ง 4 ธุรกิจสื่อ โดยเป็นเจ้าของ 2 รายการวิทยุ 89.5 และ 90.5 F.M. Business Line โดยมีแผนงานขยายธุรกิจ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมไปถึง ร่วมผลิตรายการโทรทัศน์ใน เครือ Traffic Corner วิพากษ์หุ้น และแม่ช้อยอร่อยเหาะ ทั้งทางบริษัทยังได้ร่วมมือกับนิตยสาร FoR You เพื่อจัดทำนิตยสารของผู้บริหาร อย่างไรก็ตามในธุรกิจสื่อที่4 ต้องโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับเป็นที่ปรึกษาในหลายๆวงการ

เวลา 4 ปี กับการเข้ามาทำธุรกิจด้านมีเดียและประชาสัมพันธ์ ของ "กำพล มหานุกูล" Managing Director แห่งบริษัท เบสท์โฟร์มีเดีย จำกัด อาจถือได้ว่าเป็นน้องใหม่แต่ผลงานที่ปรากฏออกมาใ้ห้เห็น ทั้งงานด้านวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และวรสาร ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าบริษัทของเข้า "ไม่ธรรมดา"

"จากชื่อบริษัท เบสท์โฟร์มีเดีย เพระาเรามีความแข็งแรงอยู่ 4 ด้าน เราตั้งใจว่าเราจะเป็นผู้ผลิตสื่อที่ครบวงจรสมบูรณ์ทั้ง 4 ด้าน ก็คือ วิทยุ โทรทัศน์สื่อสิ่งพิมพ์ และวรสาร ซึ่งในตอนนี้เราทำครบหมดแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 4 ปีที่เราเปิดบริษัทนี้ขึ้นมา ภาพโดยรวมของธุรกิจก็คืองานเกี่ยวกับการประชาสัมพันธและงานด้านมีเดีย

งานที่ประสบความสำเร็จและทุกคนน่าจะจดจำได้ในช่วงที่ผ่านมา ก็คงเป็นรายการ "เป็นปลื้ม" ที่ดำเนินรายการโดน คุณปลื้ม-ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล และงานโฆษณาที่เรารับทำ ซึ่งผมคิดว่าประสบความสำเร็จมากในการสร้างตลาดใหม่ๆ ให้กับการโฆษณา คือ กล้องวงจรปิด ในช่วง 3-4 ปีก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครเชื่อว่ากล้องวงจรปิดจะมีโฆษณาออกอากาศทางโทรทัศน์ แต่ตอนนี้ก็คงได้เห็นกันแล้ว นั่นคือกล้องวงจรปิดฟูจิโกะ ซึ่่งเราเป้นคนทำโฆษณาให้เขาเอง เราเป็นผู้แนะนำการทำโฆษณาและการตลาด และในตอนนี้เราก็หันมาทางด้านกลุ่มลูกค้าที่เป็นอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ซึ่งเราจะดูแลเขาในเรื่องการทำประชาสัมพันธ์โฆษณาให้ทั้งหมดจนตอนนี้คนส่วน ใหญ่คิดว่าเราถนัดทางอสังหาริมทรัพย์ แต่จริงๆแล้วเราถนัดทุกด้านล่ะครับ

ตัวผมเองทำงานตั้งแต่อายุ 20 จนถึงวันนี้อายุ 38 แล้วที่ผ่านมาผมถือว่าได้เก็บเกี่ยวสะสมประสบการณ์ในการทำงานมาเยอะ และผมก็เดินทางมาเยอะ ถ้ามีคนถามว่าผมสะสมอะไร ผมจะตอบว่าผมสะสมประสบการณ์ เพราะเราได้รู้ได้เห็นอะไรมาเยอะตลอดเวลาที่ผ่านมาในการทำธุรกิจ

หลักในการทำงานของผมก็คือ ความซื่อตรง มันเป็นสไตล์การใช้ชีวิตของผมด้วย คือ เป็นคนตรงๆ มีอะไรก็คุยกัน ทุกอย่างมีทางออกมีทางแก้ไขทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะหาทางแก้ไขหรือหาทางออกเจอวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ คิดง่ายๆ ก็คือ ทุกอย่างจะสำเร็จได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าเราจะตายไปก่อนที่จะประสบความสำเร็จหรือเปล่า

การทำธุรกิจ นั้น ผมเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จด้วยตัวเองไม่ไ่ด้ เราต้องมี Partner ที่ดี มีเพื่อนร่วมงานที่ดี ทำงานด้วยกันได้อย่างไว้ใจซึ่งกันและกัน ถ้าเราเจอคนที่ดี งานก็จะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย ทุกอย่างจะเดินหน้าไปอย่างมั่นคงและรวดเร็ว ตัวผมเองเวลาคุยงานกับใครก็ตาม จะเน้นความจริงใจ และคุยกันอย่างตรงๆ มีอะไรก็บอกกันตรงๆ สิ่งที่ดีก็ว่าดี สิ่งที่ไม่ดีหรือต้องปรับปรุงก็ว่ากันไปตามตรง

สิ่งที่ผมภูมิใจที่ สุดตอนนี้ ก็คือ บริษัท เบสท์โฟร์มีเดีย จำกัด ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำโครงการหนังสือดี ชีวิตสมถะ "พระจิตรลดา" ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน และเดินตามรอยเบื้องพระยุคตบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการแสดงความจงรักภักดี ร่วมเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีพร้อมทั้งช่วยเผยแพร่การทำความดีถวายแด่พระองค์ท่าน โดยได้ขอพระบรมราชานุญาต อัญเชิญตราสัญลักษณ์ทรงครองราชย์ 60 ปี ลงบนหนังาสือ "ชีวิตสมถะ" "พระจิตรลดา" และจัดสร้างพระสมเด็จจิตรลดา และจัดสร้างพระสมเด็จมงคล รุ่นทรงครองราชย์ 60 ปี เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และเตือนใจให้ทำความดีถวายแด่ในหลวง เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน พร้อมทั้งช่วยเผยแพร่สิ่งที่ประชาชนคนไทยควรรับรู้ และนำมาเป็นแบบอย่าง เพื่อ ความสุข ความเจริญ

ผมคิดว่าการทำงานชิ้นนี้เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในการทำงานของผม และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของผมแล้วล่ะครับ