ข่าวกิจกรรม ย้อนกลับ
การแข่งขันกีฬาฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปีการศึกษา 2562 ระดับชาติ ครั้งที่ 2
10 มี.ค. 2563

โครงการการแข่งขันกีฬาฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ระดับอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562 ระดับชาติ ครั้งที่ 2
ระหว่างวันที่ 17 - 24 กุมภาพันธ์ 2563 ณ สนามช้างอารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์

หลักการและเหตุผล
            ตามนโยบายของรัฐบาล เรื่อง การนำกีฬาเข้ามาอยู่ในระบบการศึกษาฯ ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงค์) ได้บัญชามอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดการแข่งขันกีฬาอาชีวะเกมส์เป็นกรณีพิเศษ ในภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2562 จัดกีฬาจัดง่าย เป็นที่นิยม ไม่ต้องมีหลายประเภท โดยศูนย์พัฒนา ส่งเสริม ประสานงานกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ นั้น
            ศูนย์พัฒนา ส่งเสริม ประสานงานกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ จึงกำหนดจัดประชุมคณะกรรมการบริหารกีฬาอาชีวะเกมส์ ระดับชาติ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อหารือพิจารณาการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีวะเกมส์ กรณีพิเศษ และที่ประชุมได้มีมติให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ระดับอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562 ในการแข่งขันระดับชาติ มอบหมายให้อาชีวศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 17 – 24 กุมภาพันธ์ 2563 ณ จังหวัดบุรีรัมย์

วัตถุประสงค์

  1. 1. เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาทุกคนออกกำลังกาย โดยการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพอย่างจริงจัง
  2. 2. เพื่อสร้างความสามัคคีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างคณะครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษาในสถาบันอาชีวศึกษาทั่วประเทศ
  3. 3. เพื่อเป็นโอกาสให้นักกีฬาอาชีวศึกษาทั่วประเทศได้มีทักษะของการเล่นกีฬาแบบมืออาชีพ
  4. 4. เพื่อส่งเสริมเชิดชูเกียรตินักกีฬาอาชีวศึกษาประเภทต่าง ๆ ที่ผ่านการคัดเลือกระดับชาติเข้าเป็นตัวแทนทีมชาติไทย
  5. 5. เพื่อเป็นการพัฒนาการแข่งขันกีฬาอาชีวะเกมส์ ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
  6. 6. เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนนักศึกษาได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการแข่งขันกีฬา
  7. 7. เพื่อยกระดับกีฬาอาชีวะเกมส์ให้เป็นกีฬาระดับสากล


ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ

  • วันที่ 17 - 24 กุมภาพันธ์ 2563  
  • วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ถ่ายทอดรอบชิงชนะเลิศทางสถานีโทรทัศน์ ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 (True4U)      เวลา18.00–20.00 น.

    
สถานที่ดำเนินการ
            สนามช้างอารีน่า  จังหวัดบุรีรัมย์

ขั้นตอนการดำเนินงาน

  1. 1.  เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ
  2. 2. จัดทำและแจ้งกำหนดการให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบ
  3. 3. จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน
  4. 4. จัดทำการขอซื้อขอจ้าง/วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการแข่งขัน
  5. 5. ประสานงาน และจัดเตรีมการดำเนินงานในฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  6. 6. ดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ระดับอาชีวศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 ระดับชาติ
  7. 7. ติดตามผล ประเมินโครงการ
  8. 8.  สรุปผลการดำเนินงาน


เป้าหมาย
            เชิงปริมาณ

  • ตัวแทนนักกีฬาฟุตบอลอาชีวศึกษา รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ระดับภาค จำนวน 5 ภาค 16 ทีม ได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาในครั้งนี้
  • คณะครู อาจารย์ ผู้ควบคุมนักกีฬา ระดับภาค จำนวน 5 ภาค 16 ทีม ได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาในครั้งนี้
  • ประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้

            เชิงคุณภาพ

  • เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน นักศึกษาแต่ละสถานศึกษา เพราะกีฬาเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยพัฒนานักเรียนนักศึกษาให้มีวินัย มีน้ำใจเป็นนนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และสร้างความสามัคคี และส่งเสริมการสร้างนักกีฬาในสถานศึกษา โดยพัฒนาผู้เรียนที่มีทักษะและความสามารถสู่ความเป็นเลิศระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับชาติ และพัฒนาต่อเนื่องไปสู่อาชีพได้อย่างยั่งยืน

ตัวชี้วัดความสำเร็จ

  1. 1. คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ , ผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชนจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงคณะครู อาจารย์ ผู้ควบคุมนักกีฬา ผู้ปฏิบัติงานและนักกีฬาที่เข้าร่วมกิจกรรม
  2. 2. การจัดการแข่งขันฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ระดับอาชีวศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 ระดับชาติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์


ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. 1. สร้างนักกีฬาในสถานศึกษา พัฒนาผู้มีทักษะและความสามารถสู่ความเป็นเลิศ ในระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับชาติ และพัฒนาต่อเนื่องไปสู่อาชีพ
  2. 2. นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันได้รับการยกย่อง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการพัฒนาตนเอง เกิดเครือข่ายผู้ปกครอง องค์กรท้องถิ่น ชุมชนและหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชน เพื่อการพัฒนาด้านกีฬาในสถานศึกษาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
  3. 3. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ประสบการณ์ตรงในด้านทักษะการบริหารจัดการ การร่วมการแข่งขัน ร่วมเชียร์ ร่วมเป็นเจ้าหน้าที่ และร่วมจัดการแข่งขัน
  4. 4. สร้างความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคี ลดความขัดแย้ง อันเป็นการสร้างสันติภาพและความเป็นเอกภาพแห่งชาติ เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นรูปธรรม
  5. 5. สามารถสร้างความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างเจ้าหน้าที่ ผู้คุมนักกีฬา ผู้ปฏิบัติงาน และนักกีฬา


การติดตามและประเมินผลโครงการ

  1. 1. บัญชีลงเวลาของคณะกรรมการดำเนินงาน
  2. 2. จำนวนคณะครู อาจารย์ ผู้ควบคุมนักกีฬาและนักกีฬาที่เข้าร่วมกิจกรรม
  3. 3. ผลการแข่งขัน
  4. 4. แบบสรุป และรายงานผลการดำเนินโครงการ

 

วิดีโอล่าสุด
กลุ่มลูกค้าของบริษัท